ย้อนกลับ

โภชนาการเพื่อผู้สูงอายุ อายุมากขึ้นกินอะไรได้บ้าง ?

โดย Oactive เมื่อ

โภชนาการเพื่อผู้สูงอายุ อายุมากขึ้นกินอะไรได้บ้าง ?

 

สำหรับผู้สูงอายุความต้องการทางโภชนาการมักจะมีความแตกต่างจากวัยอื่นๆ เพราะการใช้พลังงาน การดูดซับ การเคลื่อนไหวร่างกาย และการเผาผลาญพลังงานที่น้อยลง จึงมีผลให้คนสูงวัยต้องการสารอาหาร 5 หมู่ เหมือนกับคนทั่วไป แต่เน้นเรื่องการกินให้ตรงกับความต้องการและปัญหาด้านสุขภาพของแต่ละคนมากขึ้น โดยพลังงานที่ผู้สูงอายุต้องการอยู่ที่ 1,000 - 1,500 แคลอรี่ต่อวัน และควรมีผักผลไม้เพื่อเพิ่มกากใยอาหารในทุกมื้ออาหาร

1. กินผัก - ผลไม้หวานน้อย เพิ่มไฟเบอร์

ผู้สูงอายุควรเพิ่มการทานอาหารที่มีกากใยสูงในทุกมื้อ เพื่อเพิ่มแร่ธาตุ วิตามิน และช่วยรักษาระดับคลอเลสเตอรอลในร่างกายให้สมดุล ซึ่งอาหารที่พบกากใยอาหารสูง อาทิ ผัก ผลไม้ ข้าวโอ๊ต ถั่วชนิดต่าง ๆ โดยผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว อาทิ โรคเบาหวาน ควรเลือกทานผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย และหลีกเลี่ยงการทาน ผลไม้ที่มีแป้งและน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน ขนุน ลำไย มะม่วงน้ำดอกไม้ 

ส่วนผักควรเลือกกินหลายๆ ชนิดสลับกัน โดยทำการต้ม หรือนึ่งจนสุก ไม่ควรบริโภคผักดิบ เพราะจะย่อยยากและทำให้ท้องอืดได้

2. ไม่กินรสจัด ลดโซเดียม

สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรได้รับโซเดียมในปริมาณเพียง 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยโซเดียมได้มาจากการรับประทาน “เกลือ” ซึ่งโซเดียมมักจะมีอยู่ในอาหารรสเค็ม อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทั้งนี้ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มในปริมาณที่มากเกินไป เพื่อป้องกันความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าปกติ

3. ลดแป้ง - ไขมัน

ระบบการเผาผลาญของผู้สูงอายุ มักจะเสื่อมประสิทธิภาพลง ดังนั้นผู้สูงอายุจึงควรลดการกินแป้ง   อาหารฟาสฟู๊ต อาหารที่มีไขมันมาก ให้พลังงานมากเกินไป เพื่อปรับให้ระบบย่อยอาหารอยู่ในภาวะสมดุล ลดการเกิดไขมันและน้ำตาลในเลือดสูง น้ำหนักเพิ่ม ซึ่งจะเป้นปัจจัยสำคัญของการก่อโรคต่างๆ 

 

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

สำหรับผู้สูงอายุแต่ละวัน ควรดื่มน้ำประมาณ 1 ลิตร (6 - 8แก้ว) โดยปรับได้ตามความต้องการของร่างกาย สังเกตจากปัสสาวะมีสีเหลืองอ่อนๆ เกือบขาว แสดงว่าน้ำในร่างกายเพียงพอ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการทานน้ำอัดลม ชา กาแฟ เพราะอาจทำให้ท้องผูก และปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง

 

5. ทานอาหารเสริมให้เหมาะสมกับร่างกาย

ผู้สูงอายุบางคน จำเป็นต้องทานอาหารเสริมเพื่อซ่อมแซมร่างกาย เช่น แคลเซียม ช่วยเรื่องปัญหากระดูกพรุน, แมกนีเซียม ช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกันระบบประสาท กล้ามเนื้อ หัวใจ, ธาตุเหล็ก ช่วย ป้องกันภาวะซีด โลหิตจาง และอาการเหนื่อยง่าย ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ มีอยู่ในพืชผัก – ผลไม้ 

สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการสารอาหารเสริมเป็นพิเศษ ก็สามารถทานอาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน  ส่วนผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เรื่องการทำงานของ กับตับ ไต จำเป็นจะต้องขอคำแนะนำจากเภสัชกร ก่อนเลือกซื้ออาหารเสริมทานทุกครั้ง 

นอกจากนี้ การทานอาหารของผู้สูงอายุจะต้องคำนึงถึงการเคี้ยวกลืนอาหาร โดยผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ที่เคี้ยวยาก หรือผักเนื้อแข็ง, กุยช่าย และเห็ดเข็มทอง เพราะจะติดฟันง่าย ผู้สูงอายุต้องบดเคี้ยวเป็นเวลานาน กลืนยาก, ขนมเหนียว ๆ เช่น เปียกปูน ขนมชั้น เพราะติดคอได้ง่าย, อาหารประเภทเส้น เช่น บะหมี่ อูด้ง เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ไม่ได้ตัดให้สั้นลง, รวมถึงขนมกรุบกรอบ เช่น ขนมปัง หรือคุกกี้สาหร่ายต่าง ๆ เพราะอาจจะติดคอได้ และของหมักดองที่มีกลิ่นแรง อาจทำให้ผู้สูงวัยสำลักอาหารได้